โรงเรียนวัดคุ้งยาง


หมู่ที่  4 
 บ้านไกรนอก ตำบลไกรนอก อำเภอกงไกรลาศ
จังหวัดสุโขทัย 64170
โทร. –

การตั้งครรภ์ อธิบายว่าเพราะเหตุใดกินยาคุมฉุกเฉินเข้าไปแล้วแต่ยังตั้งครรภ์

การตั้งครรภ์

การตั้งครรภ์ ในช่วงนี้เราจะเห็นว่าสังคมได้ให้น้ำหนักกับปัญหาการตั้งท้องไม่พร้อมมากขึ้นกว่าเดิม ไม่ว่าจะเป็นในกลุ่มวัยรุ่น หรือวัยเรียน รวมไปถึงวัยผู้ใหญ่ก็ตาม ถึงแม้จะเป็นผู้ใหญ่ แต่บางทีก็ไม่ได้หมายความว่าเราจะพร้อมมีลูกแต่อย่างใด เนื่องจากความพร้อมนั้นไม่ได้วัดกันเฉพาะเงินทอง แต่ยังรวมไปถึงสภาพความเป็นอยู่ ความอบอุ่นในครอบครัว ความพร้อมทางด้านอารมณ์ ความรู้ และประสบการณ์ ที่จะหล่อหลอมให้เด็กทารกคนหนึ่งสามารถเติบโตขึ้นมาเป็นผู้ใหญ่ที่ดีในสังคมได้

นั่นก็เป็นเพราะว่าผู้คนตระหนักถึงปัญหา และสภาพสังคมความเป็นอยู่ในตอนนี้ ที่ไม่ค่อยจะดีสักเท่าไหร่ โดยเฉพาะจากปัญหาเหล่านี้ที่สั่งสมมาตั้งแต่ในอดีตจนถึงปัจจุบัน เศรษฐกิจก็ไม่ดี อาชกรรมก็มีให้เห็นอยู่ทั่วไป ความเป็นอยู่ของผู้คนย่ำแย่ โดยเฉพาะหลังการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด 19 ด้วยเหตุนี้ผู้คนจึงหันมาให้ความสำคัญกับการกินยาคุมมากขึ้นกว่าเดิมหรือแม้แต่การคุมกำเนิด การตั้งครรภ์ วิธีการอื่นเช่นเดียวกัน

แต่อย่างไรก็ตามอุบัติเหตุสามารถเกิดขึ้นได้ในชีวิตคนเราอยู่เสมอโดยที่ไม่ได้คาดฝัน เราอาจจะมีความสัมพันธ์ทางเพศโดยไม่ยินยอม หรือมีความสัมพันธ์ทางเพศกับคนรัก หรือคู่นอนแล้ว และป้องกันด้วยการส่งถุงยางอนามัยแล้ว แต่เกิดปัญหาถุงยางแตกขึ้นมาเสียอย่างนั้น สิ่งที่จะช่วยให้เรารอดพ้นจากการตั้งครรภ์โดยไม่พร้อมได้ ก็คือยาคุมฉุกเฉินนั่นเอง ถึงแม้ว่ามันจะค่อนข้างได้ผลแต่ก็มีหลายคนเช่นเดียวกันที่กินเข้าไปแล้วก็ยังคงตั้งครรภ์อยู่ดี

การตั้งครรภ์

เราจึงจะพาทุกคนไปดูกันว่าเพราะเหตุใดยาคุมฉุกเฉินจึงไม่สามารถคุมกำเนิดได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ประการแรก การกินยาไม่ทันเวลา ยาคุมฉุกเฉินสิ่งสำคัญที่สุดก็คือเวลาการกิน เวลาที่เหมาะสมสำหรับการกินยาดังกล่าวมากที่สุดก็คือหลังจากที่มีเพศสัมพันธ์ไปแล้วไม่เกิน 72 ชั่วโมง หากเราปล่อยเวลาทิ้งไว้เกินกว่า 96 ชั่วโมงขึ้นไปหลังจากการมีเพศสัมพันธ์ ก็จะยิ่งเพิ่มโอกาสเสี่ยงในการตั้งครรภ์มากขึ้นกว่าเดิมไปอีก หลังจากเม็ดแรกได้ผ่านพ้นไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ต่อมาก็คือเม็ดที่ 2 ที่หลายคนมักจะลืมเพราะยาคุมฉุกเฉินมักมาเป็นแผงขนาดเล็ก ที่บางทีกินเม็ดแรกไปแล้วก็ทำเม็ดที่ 2 หายก็มีเช่นเดียวกัน หรือไม่บางครั้งลืมยาไว้ที่บ้านก็เป็นสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้นได้ แต่โดยปกติแล้ว ตามเวลาที่กำหนดในคู่มือของยาแต่ละชนิด ส่วนใหญ่มักจะให้กินเม็ดที่ 2 ไม่เกิน 12 ชั่วโมงหลังจากที่กินยาเม็ดแรกเข้าไปแล้ว หากคุณกินยาเม็ดแรกตรงเวลา แต่ยาเม็ดที่ 2 ไม่ตรงเวลา ก็เพิ่มความเสี่ยงได้เช่นเดียวกัน

ยิ่งหากกินยาเม็ดแรกช้าอยู่แล้วด้วยแล้วมากินยาเม็ดที่ 2 ไม่ตรงเวลาอีกผลที่ได้ก็จะยิ่งมีประสิทธิภาพที่ต่ำลงอย่างเห็นได้ชัด ประการที่ 2 การใช้ยาคุมฉุกเฉินซ้ำ อะไรก็สามารถเกิดขึ้นได้กับชีวิตมนุษย์ทั้งนั้น หากเกิดเหตุการณ์ที่คุณกินยาคุมฉุกเฉินเม็ดแรกลงไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และมีเพศสัมพันธ์ในระยะเวลา 24 ชั่วโมงหลังจากที่รับประทานยาเม็ดแรกลงไป ก็อาจจะมีเหตุผลที่ต้องกินยาคุมฉุกเฉินเพิ่มอีกเช่นเดียวกัน

แต่อย่างไรก็ตามการรับประทานยาคุมกำเนิดซ้ำแล้วซ้ำเล่า ก็จะทำให้ประสิทธิภาพการทำงานลดลงและยังเสี่ยงต่ออาการไม่พึงประสงค์อย่างพวกผลข้างเคียง ไม่ว่าจะเป็นตกขาวสีน้ำตาล ปวดตึงเต้านม ปวดศีรษะ มีเลือดประจำเดือน หรือเลือดคล้ายประจำเดือนออกผิดปกติแบบกะปริบกะปรอย ในบางรายก็อาจจะมีประจำเดือนเพิ่มมากขึ้นเช่นเดียวกัน บางคนไม่มั่นใจในยาคุมปกติที่รับประทานทุกวันทั้งแบบ 21 เม็ด และแบบ 28 เม็ด

เวลาเสี่ยงขึ้นมาก็เลือกที่จะรับประทานยาคุมฉุกเฉินซ้ำไปอีกซึ่งไม่ควรทำแต่อย่างใด โดยเฉพาะหากคุณมั่นใจว่าตนเองนั้นกินยาตรงเวลากินทุกวันไม่เคยลืม ดังนั้น หากคุณรับประทานยาคุมแบบปกติอยู่แล้ว เราไม่แนะนำให้รับประทานยาคุมฉุกเฉินซ้ำแต่อย่างใด ถึงแม้ว่าจะเป็นแบบ 21 เม็ดแล้วมีความเสี่ยงในช่วง 7 วันที่ยาหมดก็ตาม เพราะยาคุมแบบ 21 เม็ดนั้นจะออกฤทธิ์ครอบคลุมทั้งหมดไม่จำเป็นต้องกังวลแต่อย่างใด

ประการที่ 3 น้ำหนักตัวเกินมาตรฐาน สำหรับสาวๆที่มีค่าดัชนีมวลกาย เกิน 30 ขึ้นไปจัดว่ามีน้ำหนักเกินมาตรฐานเวลาที่ใช้ยาคุมฉุกเฉินก็อาจจะมีอัตราการตั้งครรภ์ที่สูงกว่าคนที่มีค่าดัชนีมวลกายอยู่ในระดับปกติ ประการที่ 4 การได้รับผลข้างเคียงจากยาตัวอื่น สำหรับคนที่มีอาการป่วยอย่างอื่นอยู่แล้ว และต้องรับประทานยารักษาโรคอย่างต่อเนื่องก็จะทำให้ผลของยาคุมฉุกเฉินทำงานได้อย่างไม่มีประสิทธิภาพเช่นเดียวกัน อย่างเช่น ยาที่เข้าไปเพิ่มการทำงานของเอนไซม์ที่เปลี่ยนแปลงสภาพของยาไปเป็นต้น

ประการที่ 5 ข้อควรระวัง ยาคุมฉุกเฉินไม่ใช่ยาที่ใช้สำหรับการยุติต้านการตั้งครรภ์หรือการทำแท้งแต่อย่างใด หากตั้งครรภ์อยู่แล้ว และรับประทานเข้าไปมันจะเข้าไปรบกวนการฝังตัวในมดลูกของไข่ หรือไข่ที่ปฏิสนธิแล้ว ที่สำคัญมันไม่สามารถใช้แทนยาคุมกำเนิดชนิด 28 หรือ21 เม็ดได้ ออกฤทธิ์รบกวนการตกไข่ และยังออกฤทธิ์ที่ไม่ชัดเจนมากพอที่จะทำให้มีประสิทธิภาพจากการรับประทานหลังตกไข่อีกด้วย หากกินแล้วพบอาการผิดปกติควรรีบพบแพทย์โดยด่วน

นานาสาระ: สกอตแลนด์ ประเทศสกอตแลนด์อาจกลายเป็นรีไวล์ดิงเนชั่นที่แรกของโลก

บทความล่าสุด